สร้างผิวสุขภาพดีตามวัย

วัยรุ่น

ในวัยนี้ผิวจะมีสุขภาพดี เต็มไปด้วยคอลลาเจนและอีลาสติน กระบวนการผลัดเซลล์ของผิวตามธรรมชาติมีประสิทธิภาพดี จึงเน้นการป้องกันปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นหลัก โดยการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ ก่อนวัยอันควร เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่รักษาสมดุลของผิวได้ดี ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว ในขณะเดียวกันก็จะต้องไม่อุดตันรูขุมขน เพราะในวัยนี้มักพบปัญหาสิวได้ง่าย ควรทำความสะอาดใบหน้าวันละ 2 ครั้ง การขัดผิวสัปดาห์ละครั้งจะช่วยให้ผิวดูสดใสมากยิ่งขึ้น (แต่ถ้าเป็นสิว ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิว เพราะจะทำให้สิวเห่ออักเสบมากขึ้น)  หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำร้ายผิวได้ เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การดื่มน้ำน้อยเกินไป เป็นต้น

วัยกลางคน

ในวัยนี้ปัญหาสิวจะพบได้น้อยลง แต่จะเริ่มแสดงปัญหาของริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยรอบดวงตา รอยย่นที่หน้าผาก ร่องแก้ม ความยืดหยุ่นและความเรียบเนียนของผิวลดลง และรูขุมขนแลดูกว้างขึ้น การดูแลผิวของวัยนี้อาจเพิ่มการบำรุงที่ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเช่น วิตามินอี อนุพันธ์ของวิตามินซี สารสกัดจากเปลือกสน เป็นต้น นอกจากนี้อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดคอลลาเจน เซรามายด์ ไฮยาลูรอนิก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวแข็งแรง คงความยืดหยุดตึงกระชับไว้ได้ สำหรับผู้ที่ผิวเริ่มหมอง อาจจะใช้ผลิตถัณฑ์ที่มี AHA หรืออนุพันธ์ของวิตามินเอ ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำออกไป เนื่องจากธรรมชาติของผิวในวัยนี้จะมีการผลัดเซลล์น้อยลง จึงแนะนำให้มาสก์ผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือ การปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดอย่างสม่ำเสมอ

ผู้สูงวัย

ผิวของคนในวัยนี้จะเริ่มบางลง ปริมาณคอลลาเจน อีลาสติน และความชุ่มชื้นในผิวลดน้อยลง เป็นผลให้ผิวแห้งมากขึ้น ความยืดหยุ่นผิวลดลง ผิวเริ่มฝ่อตัว สังเกตเห็นริ้วรอยได้ชัด อายครีมเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นในวัยนี้ ผลิตภัณฑ์กันแดดและสารต้านอนุมูลอิสระยังคงเป็นสิ่งสำคัญอยู่เช่นเดิม อาจเพิ่มการมาส์กผิวให้บ่อยขึ้น ถ้ามีปัญหาผิวหมองคล้ำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี หรือสารจำพวก AHA เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ใช้ควรมีเนื้อที่เข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่งอาจมีส่วนผสมของสารสกัดคอลลาเจน ไฮยาลูรอนิก และเซราไมด์ที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิวชดเชยกับการผลิตน้ำมันที่ลดลงได้ นอกจากนี้สารในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ และสารสกัดคอลลาเจนยังช่วย ช่วยซ่อมสร้างฟื้นฟูผิว ให้มีความตึงกระชับและความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นได้

เรียบเรียงข้อมูล
RX-health team

กลับสู่หน้ารวมเคล็ดลับสุขภาพ